ปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับผิวหนังบนใบหน้าคือความชุ่มชื้น ที่จะช่วยรักษาเซลล์ผิวหนังให้คงสภาพ ไม่แห้งหรือมันจนเกินไป วันนี้เราจึงขอแนะนำ 5 แหล่งสารจากธรรมชาติ ที่หาได้ง่ายและจะช่วยสร้างสมดุลให้กับผิวหนังได้เป็นอย่างดี
แนะนำ 5 แหล่งสารจากธรรมชาติ
ว่านหางจระเข้
เป็นพืชที่มีสรรพคุณเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดการอักเสบของผิวหนัง นิยมใช้เจลว่านหางจระเข้ทาเพื่อลดอาการแห้งของผิวหนัง บำรุงผิวที่มีอาการไหม้ หลังจากถูกแดดเป็นเวลานาน หรือหลังจากการทำเลเซอร์ นอกจาดนี้ยังใช้วุ้นว่านหางจระเข้ทาเพื่อลดอาการพุพองบริเวณที่โดนน้ำร้อนลวกหรือไฟไหม้ รวมถึงสามารถใช้บำรุงผมและเล็บได้อีกด้วย
น้ำผึ้ง
แหล่งของสารอาหารที่นอกจากมีประโยชน์ต่อร่างกายทางการกินแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อผิวหนังด้วย โดยน้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยดูดความชื้นและเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งและต้องการบำรุง นอกจากนี้ยังสามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บนผิวหนัง เนื่องจากมีน้ำตาลเป็นองค์ประกอบในปริมาณสูงและยังมีสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีความเข้มข้นในปริมาณที่ฆ่าเชื้อได้แต่ไม่ทำลายผิวอยู่ด้วย
แตงกวา
พืชที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบในปริมาณสูง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี และยังมีสารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนังด้วย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี ฟอสฟอรัส กรดอะมิโน รวมถึงเอนไซม์ Erepsin ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายไป ฟื้นคืนสภาพผิว เพิ่มความสดใสและนุ่มนวลให้กับใบหน้า นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ อาการแพ้ ฝ้า กระ และจุดด่างดำได้
โยเกิร์ต
ผลิตภัณฑ์จากนมที่ขึ้นชื่อว่าอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร ซึ่งก็มีประโยชน์ต่อผิวหนังด้วยเช่นกัน โดยมีกรดแลคติกที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ยับยั้งการสร้างเม็ดสี ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ให้ผิวกลับมามีความกระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ และยังมีสังกะสีที่ช่วยลดรอยดำและแผลเป็น อีกด้วย
น้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าวสามารถดึงดูดความชื้นได้ดีและซึมลงผิวหนังได้อย่างรวดเร็ว จึงช่วยรักษาความชื้นบนผิวหนังได้ และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการถูกทำลายของเซลล์ผิวจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งแสงแดดหรือมลภาวะที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ รักษาโรคผิวหนังอักเสบ และช่วยฆ่าเชื้อโรคบนผิวหนังด้วย
สารอาหารผิวจากธรรมชาติมีอยู่มากมายให้เราเลือกนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งสามารถหาได้ง่าย ๆ ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง หากใครที่ต้องการลองสิ่งใหม่กับผิวก็อย่าลืมทดสอบการแพ้ก่อน ด้วยการทาผลิตภัณฑ์นั้นประมาณขนาดเหรียญสิบบาท บริเวณท้องแขน แล้วปล่อยทิ้งไว้ 1-2 วัน ค่อยดูว่าอาการแพ้เกิดขึ้นหรือไม่ เพื่อลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นหากเรานำไปใช้กับใบหน้า
