ความเครียดส่งผลต่ออารมณ์และสุขภาพผิวโดยตรง ทางการแพทย์เรียกว่าอาการผิวเครียด ซึ่งเกิดจากสภาวะจิตใจที่มีความเครียดและความวิตกกังวลทำให้ฮอร์โมนบางประเภทในร่างกายทำงานผิดปกติส่งผลต่อความงามของสาวๆ โดยเฉพาะผิวพรรณ มาดูกันว่าผิวเครียดมีอาการอย่างไร จะรักษาอาการหรือป้องกันได้อย่างไร
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักอาการผิวเครียดกัน เมื่อรู้สึกเครียดและวิตกกังวลจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดหรือคอร์ติซอลมากเกินไป ส่งผลให้ภูมิต้านทานของร่างกายต่ำลง ผิวบอบบางแพ้ง่าย ผิวอักเสบเป็นสิวกลายเป็นรอยแดงและจุดด่างดำ พร้อมกับกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสีที่ผิดปกติทำให้ผิวหมองคล้ำจากแสงแดดได้ง่ายจนกลายเป็นกระและฝ้าสีเข้ม สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีรอยคล้ำใต้ตา นอกจากนี้ร่างกายลดการหลั่งโกรทฮอร์โมนทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ผิวลอกเป็นขุย ผิวหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยได้ง่ายทำให้ดูแก่ก่อนวัย
วิธีการรักษาอาการผิวเครียดต้องทำอย่างไรบ้าง
-เริ่มจากหาสาเหตุของความเครียดเพื่อรับมือกับความวิตกกังวลนั้นเพื่อรักษาผิวงามและผิวพรรณที่เปล่งปลั่งให้อยู่กับผิวสาวไปนานๆ วิธีจัดการความเครียดด้วยตัวเองทำได้หลายรูปแบบ เช่น การฝึกสมาธิ สวดมนต์ ออกกำลังกาย ดูหนัง ฟังเพลง และใช้กลิ่นหอมบำบัด
-ดูแลร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง รับประทานอาหารดีๆ มีประโยชน์และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำมาก นอนหลับให้เพียงพอ หากมีเรื่องกังวลใจที่จัดการด้วยตัวเองไม่ได้ควรปรึกษาคนสนิทที่ไว้ใจได้หรือขอความช่วยเหลือทางการแพทย์
-ดูแลผิวสม่ำเสมอ รักษาความสะอาดและเช็ดเมคอัพก่อนนอนเพื่อป้องกันการเกิดสิว ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิวและใช้มอยส์เจอไรเซอร์วันละสองครั้ง เช้าและก่อนนอน ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือมากกว่า ถ้าต้องออกกลางแจ้งควรทาครีมกันแดดทุก 3-4 ชั่วโมง
-เลิกพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อผิว เช่น ไม่อยู่กลางแจ้งระหว่าง 10.00-15.00 น. เลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เลิกสูบบุหรี่ ขัดผิวอาทิตย์ละครั้ง หากขัดผิวบ่อยเกินไปทำให้ผิวพังและระคายเคืองง่าย หลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาลหรือเกลือมากเกินไป
-ความเครียดทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น ผิวหน้ายิ่งมันและเกิดสิวอุดตันมากกว่าเดิม แนะนำให้ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งเท่านั้นเพื่อรักษาสมดุลของผิวพร้อมลดความมันที่เป็นสาเหตุของสิว รอยแผลเป็นและรอยด่างดำบนใบหน้า
-เพราะความเครียดทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินทำให้ความยืดหยุ่นของผิวลดลง รักษาอาการผิวแก่ก่อนวัยด้วยการดื่มน้ำมากเพียงพอ รับประทานผักผลไม้เสริมวิตามินและมีสารต้านอนุมูลอิสระทำให้เซลล์ผิวแข็งแรงขึ้น
ปัญหาผิวที่เกิดจากความเครียดอาจหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียดได้ยาก แต่การดูแลผิวสม่ำเสมอและรักษาสุขภาพเสริมระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงจะส่งผลต่อความงามของผิวพรรณ ไม่ต้องกังวลว่าเรื่องแก่ก่อนวัย